บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) เด็กเทพวิมเบิลดันผู้ดังเร็ว ดราม่าแรง และยังเป็นตำนาน

Browse By

ถ้าพูดถึงคำว่า “เด็กเทพวิมเบิลดัน” ชื่อแรกที่โผล่ขึ้นมาในใจแฟนเทนนิสทั่วโลกเกือบทุกยุคคือ บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) เด็กหนุ่มเยอรมันวัยเพียง 17 ปีที่โผล่มาโขกหัวลงหญ้า กลิ้งฉลองแชมป์วิมเบิลดันแบบโลกจำทั้งสนาม เขาไม่ใช่แค่แชมป์ที่อายุน้อย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่คนทั้งโลกหันมามองเทนนิสเยอรมันแบบจริงจัง จาก “เด็กเสิร์ฟ–วอลเลย์ผมแดง ๆ ตัวตัน ๆ” กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความดุดัน และชีวิตที่ทั้งพีคและพังในหลายช่วง แต่ไม่ว่าอย่างไร บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) ก็ยังถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในตำนานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์เทนนิส

ในโลกแฟนกีฬา ทุกวันนี้เราไม่ต้องรอดูเทปย้อนหลังแบบเมื่อก่อนแล้ว อยากย้อนดูแมตช์แจ้งเกิดของเบคเคอร์ก็เปิดไฮไลต์ได้ในไม่กี่คลิก ขณะเดียวกันบางคนก็นั่งดูเทนนิสไป เช็กผลบอลหรือกีฬาชนิดอื่นไปด้วยผ่านช่องทางอย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด ที่เอาไว้ส่องโปรแกรม ลุ้นเบา ๆ หรือดูสถิติกีฬาแบบรวดเดียว แต่ไม่ว่าจะยุคไหน ความรู้สึกตอนเห็นเด็ก 17 ปีวิ่งทั่วสนามวิมเบิลดันพร้อมสายตา “ฉันทำได้แล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย” ก็ยังขนลุกอยู่ดี


เด็กชายจากเยอรมนีตะวันตกที่เติบโตมากับคอร์ตดิน

บอริส เบคเคอร์ เกิดที่เมืองเลเมิน ประเทศเยอรมนีตะวันตก (ยุคนั้นยังไม่รวมชาติ) ในครอบครัวชนชั้นกลางที่ไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่า แต่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและกีฬา พ่อของเขาเป็นสถาปนิก แม่เป็นแม่บ้าน แต่ทั้งคู่สนับสนุนให้ลูกเล่นกีฬาแบบจริงจัง

เหมือนเด็กยุโรปจำนวนมาก เส้นทางของเบคเคอร์เริ่มจากคอร์ตดินเล็ก ๆ ใกล้บ้าน เขาไม่ได้สูงมากในวัยเด็ก แต่ตัวแน่น กล้ามเนื้อดี และ “ไม่เคยเล่นอะไรแบบเบา ๆ” ถ้าตีลูกก็ใส่เต็ม ถ้าวิ่งก็วิ่งสุด เหมือนใช้โหมด 100% ตั้งแต่เกิด ไม่มีระบบประหยัดพลังงาน

โค้ชคนแรก ๆ สังเกตเห็นว่า

  • เบคเคอร์มีสัญชาตญาณขึ้นหน้าเน็ตที่ดีมาก
  • ไม่กลัวบอลแรง ไม่กลัวการปะทะ
  • ชอบพุ่งตัว ดำน้ำ เล่นลูกยาก ๆ เหมือนเป็นเรื่องสนุก

นิสัย “ขอให้ได้กระโดด ได้เสี่ยง” นี้แหละที่จะกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาในภายหลังเวลาเล่นบนสนามหญ้า


จากเยาวชนสู่ความหวังของเทนนิสเยอรมัน

ในระดับเยาวชน เบคเคอร์เริ่มไต่เต้าด้วยความเร็วสูง เขาไม่ใช่เด็กที่ค่อย ๆ ไต่แบบช้า ๆ แต่เป็นพวก “ถ้าจะมา ขอพุ่งเลย” ผลคือในช่วงต้นวัยรุ่น เขาเริ่มคว้าแชมป์ระดับจูเนียร์และรายการระดับ Challenger จนชื่อเริ่มปรากฏในสื่อต่าง ๆ ของเยอรมนี

ยุคนั้นเทนนิสเยอรมันกำลังมองหาฮีโร่ ขณะที่เทนนิสหญิงมีชื่ออย่าง สเตฟฟี กราฟ เริ่มฉายแวว เทนนิสชายก็ต้องการคนมาแบกธง เบคเคอร์จึงกลายเป็นความหวังอย่างไม่เป็นทางการของทั้งประเทศ ตั้งแต่ตอนยังไม่ 20 ดี

สไตล์ของเขาแตกต่างจากเด็กอื่น ๆ อย่างชัดเจน

  • เสิร์ฟแรงมากเมื่อเทียบกับวัย
  • กล้าเล่นหน้าเน็ตและดำน้ำวอลเลย์แบบไม่กลัวเจ็บ
  • เมนทัลเกมแข็งเกินอายุ ไม่ค่อยกลัวหน้าเสือสักเท่าไร

ทั้งหมดนี้ทำให้เขามีคาแรกเตอร์พร้อม “ดัง” ตั้งแต่ก่อนแจ้งเกิดจริง ๆ เสียอีก


วิมเบิลดัน 1985: วันที่โลกจำชื่อ Boris Becker

ปี 1985 คือปีที่วงการเทนนิสและวงการกีฬาโดยรวม “จำได้แบบฝังหัว” เพราะเป็นปีที่เด็กหนุ่มวัย 17 ปีจากเยอรมนีตะวันตกชื่อ บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) คว้าแชมป์วิมเบิลดัน

เขาเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ในฐานะโนเนมสำหรับแฟนนอกวงการ แต่สำหรับคนในแวดวงแล้ว ทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้อันตรายมากบนสนามหญ้า ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 อย่าง

  1. เสิร์ฟแรงและมีมุม – ลูกเสิร์ฟของเขาหนักและพุ่งต่ำ ทำให้การรีเทิร์นบนหญ้าซึ่งเด้งไวอยู่แล้ว ยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่
  2. เสิร์ฟ–วอลเลย์ดุดัน – แทบทุกครั้งที่เสิร์ฟ เขาจะวิ่งพุ่งหน้าเน็ตทันที พร้อมจะดำน้ำวอลเลย์ถ้าจำเป็น
  3. ไม่กลัวความกดดัน – ในวัยแค่ 17 แต่เขาเล่นเหมือนคนผ่านศึกมาค่อนชีวิต

แมตช์แล้วแมตช์เล่าที่เขาล้มรุ่นพี่ทีละคน จนเข้าไปถึงรอบชิง และสุดท้ายคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ภาพที่เขากลิ้งตัวลงบนสนามหญ้า อ้าปากตะโกน และใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์คือภาพที่ติดตาคนทั้งโลก

ตั้งแต่นั้นมา วิมเบิลดันก็กลายเป็น “บ้าน” ของเบคเคอร์ เขากลับไปชูถ้วยได้อีกในปีต่อ ๆ มา และแม้บางปีจะไม่ได้แชมป์ แต่ชื่อของเขาก็ถูกมองเป็นเต็งเสมอ


เสิร์ฟ–วอลเลย์สไตล์ Becker: ระเบิดพลังและกระโดดทิ้งตัวระดับไฮไลต์

ถ้าพูดถึงเสิร์ฟ–วอลเลย์ เรามีหลายแบบให้จำ

  • Edberg – เนียน นิ่ม เนี้ยบ
  • McEnroe – ศิลปิน สัมผัสบอลจัด

แต่ Boris Becker คือเวอร์ชัน “พลังระเบิด”

จุดเด่นของเขาคือ

  • เสิร์ฟแรงแบบกระแทก ใส่เต็มแขน มักตามด้วยรีเทิร์นที่รับยากจากคู่แข่ง
  • ก้าวเท้าขึ้นหน้าเน็ตเร็ว และใช้ร่างกายที่แน่นดุดันพุ่งเข้าหาบอล
  • มี “ดำน้ำวอลเลย์” เป็นเอกลักษณ์ – เขาชอบพุ่งตัวเหยียดเต็มตัวเพื่อวอลเลย์ลูกที่ดูเหมือนเก็บไม่ทัน แล้วลงพื้นแบบเจ็บก็ช่าง แต่แต้มต้องได้ก่อน

ลูกโอเวอร์เฮดของเขาก็โหดมาก ถ้าคู่แข่งพลาดโยกลูกลอย ๆ เหนือหัว อย่างมากก็แค่ได้ยืนมองลูกบอลพุ่งผ่านไปด้านหลัง

สไตล์การเล่นแบบนี้ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคนดูที่ชอบเกมดุดัน มันส์ ๆ เหมือนดูคนกระโดดดำน้ำเล่นสไลเดอร์ แต่บนสนามหญ้าสีเขียว


คาแรกเตอร์ในสนาม: ไม่ได้หัวร้อนแบบ McEnroe แต่ไฟในตาไม่เคยเบา

เบคเคอร์ไม่ใช่สายโวยกรรมการดุ ๆ แบบ John McEnroe แต่ก็ไม่ใช่สายเรียบร้อยนิ่ง ๆ สไตล์ Edberg เขาอยู่กึ่งกลาง

  • มีอารมณ์ มีปะทุบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นระเบิดเป็นเรื่องใหญ่ทุกแมตช์
  • แสดงความอินกับเกมชัดเจน ท่าดีใจของเขาดุดันมาก
  • มีความเป็น “ผู้นำอารมณ์คนดู” พอสมควร เวลาเขาเรียกเสียงเชียร์ สนามจะเดือดขึ้นทันที

แฟนเทนนิสยุคนั้นชอบพูดประมาณว่า “ถ้าอยากดูเกมที่รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังสั่นเล็ก ๆ ให้ดู Becker เล่นบนหญ้า” เพราะพลังของเขาส่งผ่านจากคอร์ตขึ้นไปบนอัฒจันทร์ได้อย่างเต็มที่


ตารางสรุปโปรไฟล์ บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker)

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อเต็มBoris Franz Becker
ชาติเยอรมนี (เยอรมนีตะวันตกในยุคเริ่มต้น)
ปีเกิด1967
จุดเด่นเสิร์ฟ–วอลเลย์ดุดัน, เสิร์ฟแรง, ดำน้ำวอลเลย์บนหญ้า
แกรนด์สแลมเด่นWimbledon, Australian Open, US Open (ผลงานเด่นหลายปี)
สไตล์บุกหน้าเน็ต, ใช้พละกำลังสูง, เล่นด้วยไฟและความกล้า
จุดจำในใจแฟน ๆแชมป์วิมเบิลดันวัย 17 ปี, ท่าดีใจกลิ้งบนสนามหญ้า
บทบาทหลังแขวนแร็กเกตโค้ช, นักวิเคราะห์, คนดังในสื่อกีฬา, ชีวิตมีดราม่าหนี้สินและการคัมแบ็ก

Rivalries: Edberg, Lendl, Agassi และยุคทองที่เข้มข้น

ช่วงที่ บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) พีคคือช่วงที่เทนนิสชายเต็มไปด้วยชื่อใหญ่ ๆ

  • Ivan Lendl – เครื่องจักรเบสไลน์
  • Stefan Edberg – สุภาพบุรุษหน้าเน็ต
  • Andre Agassi – เด็กแบดบอยสายแฟชั่น
  • Pete Sampras – ราชาเสิร์ฟ–วอลเลย์ยุคต่อมา

การเจอกันระหว่าง Becker กับ Edberg ที่วิมเบิลดันถูกจัดว่าเป็นหนึ่งใน Rivalry ที่คลาสสิกที่สุด

  • Becker = พลังระเบิด
  • Edberg = ละเอียดเนี้ยบ

ในขณะที่การเจอกับ Lendl บนฮาร์ดคอร์ตและคอร์ตดินคือการปะทะกันระหว่าง “เบสไลน์สุดเสถียร” กับ “สายบุกหน้าเน็ตสุดกล้า” แมตช์พวกนี้ไม่ได้มีแค่เทคนิค แต่เต็มไปด้วยเกมจิตวิทยาว่าใครจะ impose เกมของตัวเองได้ก่อน

ส่วนการเจอกับนักรุ่นต่อมาอย่าง Agassi และ Sampras ก็เป็นเหมือนการส่งไม้ต่อของยุค — จากยุคของเด็กเทพวิมเบิลดันสู่ยุคของราชาหลังเน็ตรุ่นใหม่


ยุคเปลี่ยนผ่าน: จากคอร์ตหญ้าสู่ฮาร์ดคอร์ตและการปรับตัวของ Becker

แม้สนามหญ้าจะเป็นบ้านหลัก แต่เบคเคอร์ก็ไม่ได้หยุดตัวเองแค่ที่วิมเบิลดัน เขาปรับเกมให้แข็งขึ้นบนฮาร์ดคอร์ต คุมจังหวะเบสไลน์ได้ดีขึ้น เพื่อให้รับมือคู่แข่งที่วิ่งสู้ฟัดและตีลึกจากท้ายคอร์ต

บนฮาร์ดคอร์ต เขายังคงใช้เสิร์ฟ–วอลเลย์ แต่เลือกจังหวะมากขึ้น บางช่วงจะแรลลี่จากท้ายคอร์ตก่อนแล้วค่อยหาโอกาสขึ้นหน้าเน็ต แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ “นักหวดบ้าพลังบนหญ้า” แต่เป็นนักเทนนิสที่วางแผนได้

สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถอยู่ในกลุ่มท็อปของโลกได้ยาวนานพอสมควร แม้ว่ารุ่นใหม่ ๆ จะเริ่มขึ้นมาเบียด


แฟนกีฬาในยุคใหม่: ดูแมตช์เก่าไป ลุ้นกีฬาอื่นไปพร้อมกัน

ย้อนกลับมาที่ฝั่งคนดูนิดหนึ่ง ในยุคของเบคเคอร์ คนดูต้องรอถ่ายทอดสดจากช่องทีวีไม่กี่ช่อง ใครพลาดก็คือพลาด แต่ยุคนี้เราอยากจะนั่งดูแมตช์เด็ดของเบคเคอร์ย้อนหลังไปพร้อมกับตามสกอร์ฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือกีฬาอื่นในคืนเดียวกันก็ยังได้

บางคนเลยเลือกใช้เครื่องมือแบบ “ศูนย์รวมสายกีฬา” อย่าง สมัคร UFABET ในการเช็กโปรแกรม ดูราคาต่อรอง หรือจะเพิ่มโหมดลุ้นแบบเบา ๆ ควบคู่ไปกับการนั่งย้อนดูไฮไลต์วิมเบิลดันยุค 80s ก็ได้ อารมณ์เหมือนอยู่สองยุคในคืนเดียว — ยุคเด็กผมแดงดำน้ำวอลเลย์บนหญ้า กับยุคที่ทุกอย่างอยู่ในหน้าจอเดียวที่เราคุมเอง

สำคัญคือ ไม่ว่าเราจะสนุกกับกีฬาในมุมไหน ก็อย่าลืมว่าคนอย่างเบคเคอร์เขาทุ่มชีวิตเพื่อ “เล่น” ส่วนเราแค่ “ดู” กับ “ลุ้น” ให้ชีวิตตัวเองบาลานซ์และสนุกแบบไม่ทำร้ายตัวเองก็พอ


ชีวิตหลังแขวนแร็กเกต: โค้ช ดารา และดราม่าชีวิตจริง

หลังจากเลิกเล่น บอริส เบคเคอร์ ไม่ได้หายไปจากหน้าจอ เขากลายเป็นทั้ง

  • นักวิเคราะห์เทนนิส
  • แขกรับเชิญรายการต่าง ๆ
  • และภายหลังก็เคยรับบท “โค้ช” ให้กับนักเทนนิสระดับโลก (เช่น โนวัค ยอโควิช ในบางช่วง)

ด้านหนึ่ง เขาเป็นตำนานที่ถูกเชิญไปในงาน Wimbledon, ATP Finals และอีเวนต์ใหญ่ ๆ อยู่เสมอ อีกด้านหนึ่ง ชีวิตนอกคอร์ตของเขาก็เต็มไปด้วยข่าวสารดราม่า ทั้งเรื่องการเงิน หนี้สิน และคดีความต่าง ๆ จนเป็นเหมือนตัวอย่างที่ทำให้โลกรู้ว่า “ดังเร็ว รวยเร็ว ถ้าไม่จัดการดี ๆ ก็พังเร็วได้เหมือนกัน”

แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อของเบคเคอร์ในฐานะนักกีฬา ก็ยังได้รับการเคารพอย่างสูง วงการเทนนิสยังคงยกให้เขาเป็นตำนานสนามหญ้า และแฟนจำนวนมากยังรักเขาจากสิ่งที่ทำไว้ในคอร์ต มากกว่าดราม่าที่เกิดขึ้นข้างนอก


อิทธิพลของบอริส เบคเคอร์ต่อเทนนิสยุคต่อมา

ถ้าถามว่า บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) ทิ้งอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังบ้าง คำตอบไม่ได้มีแค่ไฮไลต์ดำน้ำวอลเลย์เท่านั้น

  1. ต้นแบบของเด็กดาวรุ่งที่ “พร้อมจริง”
    เขาไม่ใช่แค่เด็กอายุน้อยที่โชคดีเข้ารอบลึก แต่เป็นคนที่มีเกมพร้อม แข็งแรง และเมนทัลแน่นพอจะเป็นแชมป์จริง ๆ ทำให้วงการเริ่มมองว่า ดาวรุ่งต้องถูกเตรียมแบบครบเครื่องทั้งเทคนิค ฟิตเนส และจิตวิทยา
  2. ภาพจำของเสิร์ฟ–วอลเลย์สายพลัง
    เขาทำให้โลกเห็นว่าเสิร์ฟ–วอลเลย์ไม่จำเป็นต้องเนียนอย่างเดียว แต่อาจเป็นเวอร์ชัน “แรง ดิบ แต่มัน” ได้ และสไตล์นี้ก็ส่งต่อไปยังยุคของ Sampras ในอีกรูปแบบหนึ่ง
  3. แรงบันดาลใจของเทนนิสเยอรมัน
    ความสำเร็จของเขาช่วยเปิดทางให้เทนนิสเยอรมันได้รับความสนใจ เกิดโครงสร้างสโมสรและระบบเยาวชนที่จริงจังยิ่งขึ้น
  4. บทเรียนเรื่องการจัดการชีวิตหลังความสำเร็จ
    แม้จะเป็นด้านที่เจ็บปวด แต่ชีวิตเบคเคอร์ก็กลายเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลังเห็นความสำคัญของการบริหารเงิน ชื่อเสียง และชีวิตหลังเลิกเล่น

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker)

บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) ได้แชมป์วิมเบิลดันครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่?
เขาคว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 1985 ตอนอายุเพียง 17 ปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแชมป์วิมเบิลดันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

จุดเด่นที่สุดของเกมเบคเคอร์คืออะไร?
เสิร์ฟ–วอลเลย์ที่ดุดัน เสิร์ฟแรงมาก และความกล้าที่จะพุ่งตัวดำน้ำวอลเลย์บนสนามหญ้า ทำให้เกมของเขาดูทั้งโหดและมันในเวลาเดียวกัน

เขาเก่งแค่ในวิมเบิลดันหรือเปล่า?
แม้วิมเบิลดันจะเป็นทัวร์ที่เด่นที่สุดสำหรับเขา แต่เบคเคอร์ก็ประสบความสำเร็จในแกรนด์สแลมอื่น และทัวร์ระดับใหญ่บนฮาร์ดคอร์ตด้วย ถือว่ามีความครบเครื่องดีในหลายพื้นผิว

เขาเคยเป็นมือ 1 ของโลกไหม?
ใช่ เขาเคยขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกในช่วงที่อยู่บนพีคของคาเรียร์ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่แค่สายหวือหว่าเฉพาะบางทัวร์ แต่ยืนระยะได้ทั้งฤดูกาล

หลังเลิกเล่น เขากลับมาเกี่ยวข้องกับเทนนิสยังไงบ้าง?
เขาเคยเป็นโค้ชให้โนวัค ยอโควิช ในบางช่วง และมักทำหน้าที่นักวิเคราะห์/ผู้บรรยายในรายการถ่ายทอดสดเทนนิส รวมทั้งถูกเชิญไปในงานสำคัญของ ATP และ Grand Slam อยู่เสมอ

ทำไมหลายคนบอกว่าชีวิตเขาเป็น “ละครเต็มเรื่อง”?
เพราะนอกจากความสำเร็จในคอร์ต เขายังมีปัญหาการเงิน คดีความ และข่าวดราม่าชีวิตส่วนตัวจำนวนมาก เรียกได้ว่าเส้นทางชีวิตของเขาเต็มไปด้วยจุดพีคและจุดพังสลับกันไป

มือสมัครเล่นควรเรียนรู้อะไรจากสไตล์ของเบคเคอร์?
ได้ทั้งความกล้า การบุกหน้าเน็ต การใช้เสิร์ฟให้เป็นอาวุธหลัก และการไม่กลัวเล่นลูกยาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้เรื่องบาลานซ์ ไม่เอาร่างกายไปเสี่ยงเกินไป และจัดการชีวิตตัวเองให้ดีนอกคอร์ตด้วย


ในภาพรวมแล้ว บอริส เบคเคอร์ (Boris Becker) คือคนที่ทำให้เรารู้ว่ากีฬาไม่ใช่แค่ตัวเลขบนสถิติ แต่มันคือเรื่องเล่าของมนุษย์คนหนึ่งที่ดังเร็ว ล้มลึก แต่ก็ทิ้งภาพความกล้าและความทุ่มเทไว้ในใจคนดูทั่วโลกเสมอ ทุกครั้งที่มีนักเทนนิสดาวรุ่งถูกจับตามองบนสนามหญ้า ชื่อของเขาจะถูกหยิบมาเปรียบเทียบอยู่เสมอว่า “นี่จะเป็น Becker คนต่อไปไหม” และไม่ว่าเราจะนั่งดูเทนนิสไปพร้อมกับตามสกอร์กีฬาอื่นผ่านช่องทางอย่าง ยูฟ่าเบท หรือแค่เปิดดูไฮไลต์เงียบ ๆ คนเดียว ชื่อของเบคเคอร์ก็ยังทำให้เรายิ้มบาง ๆ แล้วคิดในใจว่า โลกกีฬานี่มันทั้งสวย ทั้งโหด และทั้งจริงเหลือเกิน 🎾💚