เวลาเอ่ยชื่อ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) เราไม่ได้คิดถึงแค่คำว่า “แชมป์ 20 แกรนด์สแลม” หรือ “อดีตมือหนึ่งของโลก” แต่เรานึกถึงภาพการตีลูกที่นิ่ม ละมุน ลื่นไหลเหมือนดูบัลเลต์บนคอร์ต เท้าขยับเบา ๆ แต่ไปถึงบอลทันทุกลูก แร็กเกตแกว่งทีเดียว ลูกพุ่งไปตกมุมเส้นแบบเป๊ะ ๆ ชนิดที่ทำให้คนดูอ้าปากค้างแล้วเผลอพูดว่า “มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ยุคของเราโชคดีตรงที่อยากดูเฟดย้อนหลังเมื่อไหร่ก็เปิดไฮไลต์ได้ จะดูแมตช์ในวิมเบิลดัน ยูเอสโอเพ่น หรือโรลังด์ การ์รอส ก็เลือกได้หมด แถมบางคนยังเปิดอีกจอไว้ตามสกอร์กีฬาอื่นหรือเพิ่มสีสันในคืนแมตช์ใหญ่ผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด อีกต่างหาก แต่ไม่ว่าเราจะดูผ่านกี่จอ หนึ่งอย่างที่เหมือนกันคือ เวลาลูกโฟร์แฮนด์ของเฟดพุ่งไปล็อกมุมเส้น มันยังให้ความรู้สึก “ขนลุกนิด ๆ” อยู่ดี
วัยเด็กในบาเซิล: เด็กขี้หงุดหงิดที่รักกีฬาเกือบทุกชนิด
เฟเดอเรอร์เกิดที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปี 1981 พ่อเป็นชาวสวิส แม่เป็นชาวแอฟริกาใต้ เขาโตมาในบ้านที่ไม่ได้บังคับแต่ “เปิดโอกาสให้ลองเล่นกีฬาเต็มที่”
ตอนเด็กเฟดไม่ได้เล่นแค่เทนนิส เขาเล่นทั้ง
- ฟุตบอล
- บาสเก็ตบอล
- กีฬาอื่น ๆ ชนิดที่ว่าชวนแล้วพร้อมลงสนามตลอด
แต่สิ่งที่ติดตัวชัด ๆ คือ “สายตาและความคล่องตัว” พอมาแตะเทนนิสจริงจัง เลยไปไวมาก
สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ เฟดเวอร์ชันเด็ก ขี้หงุดหงิดมาก
- ปาหัวไม้
- บ่นตัวเองลั่นคอร์ต
- โมโหง่ายเวลาเล่นไม่ดี
คือถ้าใครเห็นแค่เฟดเวอร์ชันวิมเบิลดันที่ยิ้มสุภาพตลอด จะไม่เชื่อเลยว่าเด็กคนนี้เมื่อก่อนคือสายหัวร้อนเบอร์แรง แต่ก็เพราะผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมานี่แหละ เขาถึงเข้าใจคำว่า “คุมตัวเอง” ได้ลึกมากในภายหลัง
เส้นทางสู่เยาวชนระดับโลก: จากเด็กคลับท้องถิ่นสู่แชมป์จูเนียร์วิมเบิลดัน
เมื่อโฟกัสเทนนิสเต็มตัว เฟเดอเรอร์ย้ายเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกและอะคาเดมีต่าง ๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ การซ้อมจริงจังมากขึ้น โค้ชเริ่มเห็นภาพชัดว่าเด็กคนนี้มีของ
- ทักษะมือ–ตา (hand–eye coordination) ดีผิดปกติ
- ฟุตเวิร์กเบาและเร็วโดยธรรมชาติ
- ความคิดสร้างสรรค์ในการตีลูก แอบตีช็อตยาก ๆ เป็นปกติ
เขาเริ่มเดินสายแข่งระดับเยาวชนทั้งในยุโรปและระดับโลก จุดพีกตอนเป็นจูเนียร์คือ แชมป์วิมเบิลดันเยาวชน ซึ่งกลายเป็นสัญญาณให้ทั้งวงการรู้ว่า “คนนี้มีสิทธิ์ขึ้นมาดังในระดับโปรแน่ ๆ”
ตอนนั้นเขายังไว้ผมฟู ๆ ใส่ชุดเทนนิสพร้อมรอยยิ้มแบบเด็กซน แต่ช็อตโฟร์แฮนด์และแบ็กแฮนด์ของเขาเริ่มมีเค้าความละมุนที่เราคุ้นตาในเวอร์ชันนักโปรแล้ว
เข้าสู่ระดับโปร: จากเด็กน้องใหม่สู่คนที่ล้มแซมปราสกลางวิมเบิลดัน
ช่วงปลายยุค 90s ถึงต้นยุค 2000s เฟเดอเรอร์เริ่มไต่ระดับใน ATP ทัวร์ ช่วงแรกเขายังเป็น “ดาวรุ่งที่ใคร ๆ ก็มองว่าเล่นสวยแต่ยังไม่คงเส้นคงวา”
แต่ปี 2001 คือจุดหักเหสำคัญ เมื่อเขาเจอกับ พีท แซมปราส ราชาวิมเบิลดันในตำนาน ในรอบ 4 ของวิมเบิลดัน และเฟเดอเรอร์ที่ตอนนั้นยังเป็นแค่เด็กดาวรุ่งก็ล้มราชาบนคอร์ตหญ้าได้สำเร็จในแมตช์สุดคลาสสิก
ภาพจำวันนั้นคือ
- เด็กหนุ่มผมฟูใส่ผ้าคาดหัว
- ตีกับไอดอลของตัวเองแบบไม่เกรงใจ
- แล้วชนะในแมตช์ห้าชุดแบบลุ้นตัวโก่ง
สำหรับหลายคน นั่นคือวันที่โลกได้เห็น “เจ้าชายคนใหม่ของวิมเบิลดัน” โดยไม่ต้องมีการประกาศอย่างเป็นทางการ
สไตล์การเล่น: โฟร์แฮนด์ละมุน แบ็กแฮนด์มือเดียว เท้าลอยบนคอร์ต
เกมของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสไตล์ที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์เทนนิส ไม่ใช่เพราะตีโชว์ แต่มันทั้งสวยและมีประสิทธิภาพสูงในเวลาเดียวกัน
โฟร์แฮนด์
- ลูกโฟร์แฮนด์ของเฟดคือตำนาน
- เขาปรับได้ทั้งแฟลต สปิน มุมกว้าง ตบปิด
- สามารถตีวิ่งโฟร์แฮนด์ (runaround forehand) เปลี่ยนจากแบ็กแฮนด์ฝั่งซ้ายให้กลายเป็นโฟร์แฮนด์อาวุธหลัก แล้วหวดสวนไปในจุดที่คู่แข่งคาดไม่ถึง
หลายคนเรียกโฟร์แฮนด์ของเขาว่า “ศิลปะที่มีความเร็วกว่าเหตุผล” เพราะกว่าคุณจะรู้ว่าลูกไปไหน สกอร์ก็ขยับไปแล้วหนึ่งแต้ม
แบ็กแฮนด์มือเดียว
เฟเดอเรอร์ใช้แบ็กแฮนด์มือเดียว ซึ่งในยุคของเขาถือว่าหาได้น้อยลงเรื่อย ๆ เขาสามารถ
- สไลซ์แบ็กแฮนด์ให้ลูกลอยต่ำและช้า ทำลายจังหวะคู่แข่ง
- ตีท็อปสปินแบ็กแฮนด์สวนขึ้นไปบนลูกหนัก ๆ ได้ แม้จะเคยถูกนาดาลรุมโจมตีแถวนี้บ่อย ๆ ก็ตาม
พอเฟดแก้สมการนั้นได้ในช่วงปลายคาเรียร์ แบ็กแฮนด์มือเดียวของเขายิ่งดูเท่มากขึ้นไปอีก
ฟุตเวิร์กและความลื่นไหล
จุดเด่นใหญ่สุดอย่างหนึ่งคือ “การเคลื่อนไหว”
- เขาเหมือนลอยไปบนคอร์ต
- ก้าวเท้าเบาแต่เร็ว
- เลือกตำแหน่งยืนได้ดีมาก ทำให้ไม่ค่อยถูกบีบจนเสียสมดุล
ดูรวม ๆ แล้วคือคนที่ทำให้เทนนิสระดับสูงดู “ง่าย” ทั้งที่จริง ๆ มันโคตรยาก
ยุคทอง: มือหนึ่งของโลกและการครองวิมเบิลดัน
ช่วงกลางยุค 2000s คือช่วงที่โลกเทนนิสเรียกได้เต็มปากว่า “ยุคของเฟเดอเรอร์”
- เขาคว้าแกรนด์สแลมถี่มาก
- ขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกยาวนาน
- เล่นบนพื้นผิวเกือบทุกแบบได้อย่างสมบูรณ์
โดยเฉพาะ
- Wimbledon – บ้านหลังที่สองของเขา คว้าแชมป์ได้ต่อเนื่องหลายปี
- US Open – ฮาร์ดคอร์ตที่เขาใช้เกมบุกผสมลูกทริคต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
เวลาเขาลงคอร์ต แฟน ๆ จะรู้สึกว่า “ถ้าเฟดอยู่ในฟอร์มของเฟด คืนนี้คู่แข่งเหนื่อยแน่นอน” บางปีเขาเล่นดีจนแทบไม่มีใครคิดว่ามีคนจะขึ้นมาแย่งบัลลังก์ได้เลย
…จนกระทั่ง ราฟาเอล นาดาล โผล่มาพร้อมคอร์ตดิน กับต่อด้วย โนวัค ยอโควิช ที่เป็นสายเมนทัลเหล็ก นั่นแหละ โลกเลยค่อย ๆ เปลี่ยนจากยุค “เฟดโดดเดี่ยว” สู่ยุค Big 3 ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก
การกำเนิดของ Big 3: เมื่อเฟดไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป
การมาของ นาดาล และ ยอโควิช ทำให้โลกเห็นภาพชัดว่า “แม้เฟดจะเก่งขนาดไหน ก็ยังมีคนที่ขึ้นมาท้าทายได้”
- นาดาล = ร่างกายโหด วิ่งไม่มีหมด โฟร์แฮนด์สปินจัดบนคอร์ตดิน
- ยอโควิช = เมนทัลเหล็ก เหนียวระดับสุดยอด รับเสิร์ฟและป้องกันได้บ้าเลือด
สามคนนี้ช่วยกันทำให้เทนนิสยุคใหม่กลายเป็นยุคทอง (Golden Era)
- รอบชิงแกรนด์สแลมเต็มไปด้วยเฟด–นาดาล–โนเล่สลับกันใส่
- ทุกการดวลกันคือเรื่องเล่าใหม่ในประวัติศาสตร์
- แฟนเทนนิสทั่วโลกต้องตั้งนาฬิกาปลุกตีสองตีสามอย่างเป็นกิจวัตร 😅
ในมุมของเฟด แม้การมาของสองคนนี้จะทำให้การเก็บแกรนด์สแลมยากขึ้น แต่มันก็ทำให้ “ตำนานของเขาเข้มข้นขึ้น” เพราะคนยิ่งเห็นว่า เขาต้องผ่านคู่ต่อสู้โคตรโหดแค่ไหนในแต่ละยุค
ตารางสรุปโปรไฟล์ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer)
| หัวข้อ | รายละเอียด |
|---|---|
| ชื่อเต็ม | Roger Federer |
| ชาติ | สวิตเซอร์แลนด์ |
| ปีเกิด | 1981 |
| แกรนด์สแลม | 20 รายการ (Wimbledon เด่นเป็นพิเศษ) |
| จุดเด่น | โฟร์แฮนด์ละมุน, ฟุตเวิร์กเบา, แบ็กแฮนด์มือเดียว, เกมบุกครบเครื่อง |
| สไตล์ | เล่นสวยแต่คม, ผสมหน้าเน็ต–ท้ายคอร์ตอย่างลงตัว |
| ฉายา/ภาพจำ | GOAT ในใจใครหลายคน, สุภาพบุรุษในคอร์ต, แฟชั่นเรียบแต่เท่ |
| บทบาทนอกคอร์ต | มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก, แบรนด์แอมบาสเดอร์, ไอคอนวงการกีฬาโลก |
ชีวิตนอกคอร์ต: สุภาพบุรุษ ครอบครัว และมูลนิธิเพื่อเด็ก
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนรักเฟเดอเรอร์เกินกว่ามิติของ “แฟนนักกีฬา” คือบุคลิกนอกคอร์ตของเขา
- พูดจาสุภาพ
- เคารพคู่แข่ง
- ยิ้มง่าย
- แทบไม่มีดราม่าแรง ๆ
เขาแต่งงานกับ มิรกา (Mirka) อดีตนักเทนนิสเหมือนกัน มีลูกฝาแฝดสองชุด (ใช่…บ้านนี้ดวงฝาแฝดดีมาก) และมักถูกเห็นภาพในบทบาทคุณพ่อที่คอยมองหาจังหวะใช้ชีวิตกับครอบครัวท่ามกลางตารางแข่งที่ชุกสุด ๆ
นอกจากนี้เขายังตั้ง มูลนิธิ Roger Federer Foundation ที่เน้นด้านการศึกษาในแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ “ความสำเร็จในคอร์ต” ถูกต่อยอดออกมาเป็น “โอกาสในชีวิต” ให้เด็กอีกจำนวนมาก
แฟนกีฬาในยุคใหม่: ดูเฟดย้อนหลังไป เช็กสกอร์กีฬาอื่นไปในคืนเดียว
พอมองกลับมาที่ตัวเราในฐานะแฟนกีฬา ยุคนี้สบายกว่าแต่ก่อนเยอะ
- จะดูแมตช์คลาสสิกของเฟดเมื่อไหร่ก็ได้
- จะเปิดดูเทนนิสสดพร้อมฟุตบอล บาส หรือกีฬาอื่นในคืนเดียวก็ทำได้
บางคนเลยเพิ่มสีสันด้วยการเปิดอีกหน้าจอไว้ตามโปรแกรมและสกอร์ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง สมัคร UFABET เอาไว้ลุ้นเบา ๆ เพิ่มความตื่นเต้นในวันที่มีเกมใหญ่หลายชนิดชนกันไปหมด
สุดท้ายแล้วต่อให้เราเชียร์หลายกีฬา แต่เวลาเห็นเฟดเดินขึ้นคอร์ตหญ้าในชุดขาว ถือแร็กเกตแล้วหมุนไม้ก่อนรับเสิร์ฟ ทุกอย่างมันจะเหมือนโลกช้าลงนิดนึง ให้เราโฟกัสกับ “ความละมุนของเกม” ได้เต็ม ๆ
ช่วงปลายคาเรียร์: การยอมรับสังขาร และการอำลาที่ทำคนดูน้ำตาซึม
อย่างที่รู้กัน ร่างกายคนเราไม่ชนะเวลา ต่อให้จะเป็นโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ก็ตาม ช่วงปลายคาเรียร์เขาเจอปัญหาบาดเจ็บ โดยเฉพาะหัวเข่า ต้องผ่าตัดหลายครั้ง พยายามกลับมาแล้วก็เจอข้อจำกัดของร่างกายมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ยังมีช่วงที่กลับมาเล่นแล้วโชว์ฟอร์มเทพให้เราเห็น (เช่น การคว้าแกรนด์สแลมเพิ่มในวัยที่หลายคนคิดว่าใกล้รีไทร์แล้ว) แต่ท้ายที่สุดเขาก็ประกาศอำลาวงการอย่างเป็นทางการ
แมตช์อำลาของเขาในรายการ Laver Cup ที่ลงเล่นคู่กับนาดาล คือฉากหนึ่งที่คนดูทั่วโลกจำได้ไม่ลืม
- เฟดนั่งจับมือกับนาดาลบนม้านั่ง
- ทั้งคู่มีน้ำตาคลอ ๆ
- แฟนเทนนิสทั้งสนามยืนปรบมือให้นานจนไม่อยากให้โมเมนต์นั้นจบ
มันไม่ใช่แค่การอำลา “นักเทนนิสคนหนึ่ง” แต่มันคือการอำลา “ยุคหนึ่งของชีวิตแฟนกีฬา” เลยด้วย
อิทธิพลของเฟเดอเรอร์ต่อเทนนิสยุคใหม่
ถ้าให้สรุปว่าเฟดทิ้งอะไรไว้บ้าง คงต้องแบ่งหลายมิติ
1) ด้านสไตล์การเล่น
- แสดงให้เห็นว่าการเล่นให้ “สวย” กับ “ได้ผล” ไปด้วยกันได้
- ทำให้คนรุ่นใหม่อยากตีโฟร์แฮนด์ให้คลีน เนียน ไม่ได้แค่หวดแรงอย่างเดียว
- ทำให้แบ็กแฮนด์มือเดียวยังมีพื้นที่ในโลกของเทนนิสที่เต็มไปด้วยสองมือ
2) ด้านเมนทัลและบุคลิก
- เป็นตัวอย่างของคนที่เปลี่ยนจากหัวร้อนเป็น “สุภาพบุรุษโคตรนิ่ง” ด้วยการทำงานกับตัวเอง
- แสดงให้เห็นว่าเราจะเป็นแชมป์โลกแต่ก็ยังยิ้มง่าย ใจดีกับแฟน ๆ และให้เกียรติคู่แข่งได้
3) ด้านวัฒนธรรมกีฬา
- ทำให้เทนนิสกลายเป็นกีฬาที่คนรู้สึกว่า “ดูแล้วสวยงาม เหมือนดูศิลปะผสมกีฬา”
- เป็นไอคอนระดับโลกที่ข้ามออกจากขอบเขตแฟนเทนนิส ไปอยู่ในใจแฟนกีฬาทุกชนิด
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer)
เฟเดอเรอร์ได้แกรนด์สแลมทั้งหมดกี่รายการ?
เขาคว้าแกรนด์สแลมไป 20 รายการ ครอบคลุมทุกพื้นผิว โดยเด่นที่สุดคือ Wimbledon
จุดเด่นสุดในเกมของเฟเดอเรอร์คืออะไร?
โฟร์แฮนด์สุดละมุน ฟุตเวิร์กเบา แบ็กแฮนด์มือเดียวที่ใช้ได้ทั้งสไลซ์และท็อปสปิน และการมองเกมที่สร้างสรรค์มาก
เขาเคยหัวร้อนจริงเหรอ?
จริง ตอนเป็นวัยรุ่นเขาอารมณ์ขึ้นง่าย ปาหัวไม้บ่อย แต่หลังจากค่อย ๆ ปรับตัวเอง เขากลายเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่คุมอารมณ์ได้ดีที่สุดคนหนึ่งในทัวร์
ทำไมหลายคนบอกว่าเขาคือ GOAT?
เพราะผลงานระดับแชมป์มากมาย ความยืนระยะในฐานะมือหนึ่งของโลก สไตล์การเล่นที่ไร้กาลเวลา และภาพลักษณ์นอกคอร์ตที่แทบจะไร้ดราม่า ทำให้เขาเป็น “ที่สุดในใจ” ของแฟน ๆ จำนวนมาก แม้ในเชิงตัวเลขแกรนด์สแลมอาจโดนคนอื่นแซงไปแล้วก็ตาม
มือสมัครเล่นควรเรียนรู้อะไรจากเฟเดอเรอร์?
ทั้งเรื่องเทคนิค (เช่น การเตรียมเท้า การตีให้บาลานซ์) และเรื่องเมนทัล (เช่น การพัฒนาจากเด็กขี้หงุดหงิดเป็นคนที่คุมอารมณ์ได้ดี) ยังไม่รวมเรื่องบาลานซ์ชีวิตและการให้ความสำคัญกับครอบครัวด้วย
เขายังเกี่ยวกับเทนนิสอยู่ไหมหลังรีไทร์?
ใช่ เขายังโผล่ในงานใหญ่ ๆ ของทัวร์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้หลายแบรนด์ และทำงานมูลนิธิต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้เหยียบคอร์ตแข่งในฐานะโปรแล้ว แต่เขายังเป็นหน้าตาของวงการเทนนิสอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่เราย้อนดูแมตช์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไม่ว่าจะเป็นไฟต์เดือดกับนาดาลในวิมเบิลดัน หรือศึกวัดใจกับยอโควิชในยูเอสโอเพ่น เราจะได้รู้สึกทั้ง “ลุ้น” และ “ชม” ในเวลาเดียวกัน ลุ้นเพราะเกมโคตรสูสี ชมเพราะช็อตที่เขาตีออกมามันสวยเกินกว่าจะเชื่อว่านี่คือการแข่งขันจริง ๆ
ในฐานะแฟนกีฬา เราอาจจะนั่งดูเฟดไป พร้อมสลับหน้าจอไปดูสกอร์กีฬาอื่น หรือเพิ่มความตื่นเต้นผ่านแพลตฟอร์มสายกีฬาที่คุ้นเคยอย่าง ยูฟ่าเบท แต่ไม่ว่าจะมีเกมให้ลุ้นกี่คู่ในคืนหนึ่ง ชื่อของเฟเดอเรอร์ก็ยังเป็นเหมือน “เพลงธีม” ที่ทำให้เรานึกถึงความงดงามของกีฬาได้เสมอ ว่ามันไม่ได้มีแค่ผลแพ้–ชนะ แต่มีศิลปะ ความพยายาม และความเป็นมนุษย์ซ่อนอยู่ในทุกแต้มที่ตีด้วย 💚🎾